หนุมาน รุ่นแรก ท่านเจ้าคุณอ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ปี2535 จ.นนทบุรี

หนุ​มาน​งารุ่นแรก​ ปี2535
ท่านเจ้าคุณอ่างวัดใหญ่ สว่างอารมณ์ จัดสร้าง100 ตนจะทั้ง
พิมพ์​คอบัว​
พิมพ์​สร้อย​สังวาลย์​แบบมีข้าวหลาม​ตัดตรงหน้าอก​
พิมพ์​สร้อย​สังวาลย์​ไม่มีข้าวหลาม​ตัด​ รวมอยู่ในร้อยตนนิดๆครับ​ ท่านบอกแกะมารวมๆกันไม่ได้แยกออกว่าพิมพ์​ไหนมีจำนวนเท่าไร​ แต่แค่ที่เราคอบัวจะพบเจอน้อยสุดครับเนื้องาประมาณ 100 ตน
เนื้อไม้ประมาณ 300 ตน
มีด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ คอบัว กับ สร้อยสังวาลย์
รายละเอียด
ประวัติหลวงพ่ออ่าง..
อาจารย์อ่าง สิริจนฺโท นามนี้เป็นที่รู้จักกันในจังหวัดนนทบุรีโดยเฉพาะย่านเกาะเกร็ดแถววัดเกาะศาลากุนพระอาจารย์อ่างท่านเป็นพระเกจิผู้คงแก่เรียนเป็นผู้มากอาคมและยังเป็นศูนย์รวมตำราสรรพวิชาต่างๆในสายเกจิจังหวัดนนทบุรีไว้มากที่สุดอีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนาช่วยเหลือสังคมงานบุญบริจาดต่างๆท่านทำมาโดยตลอด จึงนับว่าเป็นเกจิอาจารย์ในยุดปัจจุบันที่มีความเมตตาก่อประโยชน์อย่างสูงแก่ชุมชนละแวกนั้นๆ ผู้คนเคารพรักและศรัทธาท่านเหตุเพียงเพราะท่านไม่ถือตัวและเป็นกันเองกับลูกศิษย์ทุกคนเท่าเทียมกับ
ชาติกำเนิด ปฐมวัย
หลวงพ่ออ่าง สิริจนฺโท ถือกำเนิดในสกุล"นุ่มโพธิ์"เมื่อวันศุกร์ที่16สิงหาคม พ.ศ.2494 แรม7ค่ำเดือน8 ปีเถาะ ที่บ้านบางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี บิดามารดาของท่านเป็นชาวสวนคือนายจวนและนางบุญช่วย นุ่มโพธิ์ ชีวิตในวัยเยาว์ของท่าน จบการศึกษาชั้น ป.4 ที่โรงเรียนวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ท่านมีความขยันและช่วยบิดามารดาทำสวนและเก็บผลผลิตพายเรือขายตามประสาชาวบ้านช่วงที่เสร็จจากงานสวนแล้วก็จะไปเล่นที่วัดใหญ์สว่างอารมณ์เหมือนเด็กคนอื่นๆ บางครั้งก็จะไปอยู่รับใช้หลวงพ่อกุหลาบ หลวงพ่อกุหลาบท่านก็เห็นว่าอาจารย์อ่างสนใจในศาสตร์นี้แถมยังเป็นเด็กฉลาดน่าจะสอนได้ไม่ยากจึงเริ่มสอนอ่านขอมก่อนแต่ก็ยังไม่ได้อะไรมาก จนกระทั่งอาจารย์อ่างเริ่มเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่หลวงพ่อกุหลาบสอนให้ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาประพฤติตนอยู่ในศิลธรรมอันดีมาโดยตลอดจึงมีความคิดที่จะอุปสมบท หลวงพ่ออ่างบวชเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ.2512 อายุ18ปี แล้วอยู่รับใช้หลวงพ่อกุหลาบเลือยมา
พระอาจารย์อ่าง สิริจนฺโท ในสมณเพศ
พระอาจารย์อ่าง สิริจนฺโท เริ่มในปี พ.ศ.2512 ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ18ปี ที่วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ต.หอมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต่อมาก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ วันที่20เมษายน พ.ศ.2515 ที่วัดใหญ่สว่างอารมณ์ เช่นกัน มีพระนันทวิริยาจารย์(หลวงพ่อกุหลาบ)เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูนนทเลขจารย์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูนนทสารวิสิทธิ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ บวชแล้วท่านได้ศึกษาปฎิบัติ์ธรรมทั้งเรียนปริญัติตลอดจนอ่านเขียนอักขรเลขยันต์จนสามารถอ่านออกเขียนได้ในพรรษาแรก
ด้านการศึกษาพุทธคม
หลวงพ่ออ่างท่านศึกษาอักขรเลขยันต์กับหลวงพ่อกุหลาบตั้งแต่ยังไม่ได้บวชหลังจากที่ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่นั้น หลวงพ่อกุหลาบท่านเมตตาอาจารย์อ่างเป็นอย่างมากสอนทุกอย่างประสิทธิประศาสตร์วิชาที่มีอยู่ให้อาจารย์อ่างแทบหมดสินรวมทั้งมอบตำราสำคัญๆให้อาจารย์อ่างเก็บรักษาสืบต่อไป ตำราที่หลวงพ่อกุหลาบมอบให้กับอาจารย์อ่าง ก็จะมีตำราการทำผงพุทธคุณ ตะกรุด และยันต์ต่างๆของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ซึ้งหลวงพ่อกุหลาบได้รับมอบมาจากหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง เมื่อวันที่27 ตุลาคม พ.ศ.2489 ถัดมาอีกปีหลวงปู่กลิ่นท่านก็ละสังหาร และ ตำราอีกเล่มที่มีความสำคัญมากคือตำราปลุกเสกหนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุน ที่หลวงพ่อกุหลาบได้ไปร่ำเรียนมา และตำราอื่นๆอีกเช่น ตำราหลวงพ่อต่วน วัดระหาร ตำราหลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ ฯลฯ คงจะมองเห็นภาพกันบ้างแล้วว่าหลวงพ่อกุหลาบท่านก็เป็นศิษย์ที่มีครูดีองค์หนึ่งหลวงพ่อกุหลาบท่านเป็นศิษย์สมเด็จพระพุฒาจารย์นวมวัดอนงคาราม กทม."พระปรกใบมะขามวัดอนงค์ที่เราเห็นมีจารย์ลายมือนั้นเป็นรอยจารย์ของหลวงพ่อกุหลาบ อาจารย์อ่างท่านได้ออกเดินทางไปอยู่กับอาจารย์กราน วัดห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ด้วยความหวังที่ว่าจะเดินทางไปศึกษาพุทธคมกับเกจิภาคตะวันออกอย่างเช่นหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จนได้เจอกับหลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านอาจารย์อ่างเรียนวิชาการทำปลัดขริกและเลขยันต์อยู่สามวันเต็มมิได้เป็นการเรียนทั้งหมดเพียงแต่เป็นการไปศึกษาเพื่มเต็มตามคำชี้แนะของอาจารย์รอด ดาบยาวอาจารย์ฆราวาสผู้เป็นศิษย์เอกหลวงพ่อสุ่นวัดเกาะศาลากุน จ.นนทบุรี จากนั้นก็ไปกราบท่านพ่อคงแห่งวัดวังสรรพฬสเรียนเลขยันต์อยู่สามถึงสี่วันเช่นกันจึงลากลับวัดใหญ่สว่างอารมณ์เนื่องจากเห็นว่ามานานแล้วอีกทั้งยังได้ไปเรียนกับหลวงปู่เหรียญวัดบางระหงษ์อีก3ปี อาจารย์อ่างท่านชอบศึกษาวิชาอาคมหลังจากกลับมาวัดใหญ่ท่านก็จะเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับเพื่อไปเรียนกับหลวงพ่อหน่ายวัดบ้านแจ้ง อยุธยา และอาจารย์อ่างท่านยังเป็นศิษย์รักของหลวงพ่อพระมหาโพธิ์ วัดคลองมอฌและหลวงพ่อเชื้อวัดใหม่บำเพ็ญบุญ จ.ชัยนาถ เรื่องการทำมีดหมอสายมะขามเฒ่าก็ต้องถือว่าสององค์นี้แหละที่หาตัวจับยากจึง จะเห็นได้ว่าหลวงพ่ออ่างท่านศึกษาพุทธคมมาอย่างโชคโชน อาจารย์อ่างท่านเห็นว่าวิชาต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมาส่วนมากจะคล้ายๆกัน ท่านจึงไม่ได้ไปศึกษาต่อที่ไหนอีก ท่านจึงกลับมาศึกษาด้านปริยัติธรรมได้ที่ ปธ.3

อาจารย์รอด ดาบยาว มอบตำราหลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุน
อาจารย์รอด ดาบยาว ท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุนเป็นลูกศิษย์ฆราวาสเพียงคนเดียวที่อยู่รับใช้ต้มน้ำอุ่นแกงรวมให้หลวงพ่อสุ่นจนหลวงพ่อสุ่นมรณะภาพ อ.รอด เป็นหมอยาโบรานรักษาโรค ถอนคุณไสยอาจารย์รอดเล่าว่า หลวงพ่อพวงวัดจันทร์ในเกาะเกร็ดท่านทำควายธนูได้ขลังมากกลางคืนความธนูของท่านจะคอยเฝ้าระวังภัยอยู่ใต้กุฎิเอาลำตัวไถกับเสาเรือนไปมา หลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุน กับ หลวงพ่อพวง วัดจันทร์ ท่านเป็นสหธรรมิกกันมักแลกเปลี่ยนวิชากัน มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านรองวิชากันโดยให้ควายธนูของหลวงพ่อพวงสู้กับหนุมานหลวงพ่อสุ่นท้ายสุดหนุมานขึ้นบนหลังควายธนู ช่วงบันปลายชีวิตของอาจารย์รอด ดาบยาว ท่านได้มอบตำราที่เป็นต้นฉบับ มีดหมอ ไม้เท้าและเหล็กจารย์ ของหลวงพ่อสุ่นที่เก็บรักษาไว้ให้กับหลวงพ่ออ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ เป็นผู้เก็บรักษาต่อไป
หลวงพ่ออ่าง สิริจนฺโท ปันจุบัน อายุ63ปี 45พรรษา ปธ.3
เป็นเจ้าอาวาส ปี2529
เลื่อนสมณศักดิ์ ที่พระครูสิริจนฺโทภาส ปี2535
เป็นอุปัฌชาย์ ปี39
เลื่อนเป็นพระครูชั้นเอก ในทิรนามเดิม ปี2544
รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ปี47
เลื่อนเป็นพระครูชั้นพิเศษ ในทิรนามเดิม ปี2552
เลื่อนสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระนันทวิริยาภรณ์ ปี2556หลวงพ่ออ่าง สิริจนฺโท วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี
ขอขอบพระคุณข้อมูล จากเว็บไซต์ ด้วย ครับ